พุยพุย

วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2559

ใบงานที่ 5 บทความสารคดีที่นำมาใช้ในการเขียนโครงร่าง

ชนเผ่าซูลู


ซูลู (Zulu) เป็นชนเผ่ากลุ่มหนึ่งของแอฟริกา มีจำนวนประชากรประมาณ 11 ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่อาศัยในควาซูลู-นาตาล แอฟริกาใต้ มีจำนวนเล็กน้อยที่อยู่อาศัยในซิมบับเว แซมเบียและโมแซมบีก ภาษาอีซิซูลู (isiZulu) เป็นสาขาหนึ่งของภาษาบันตู (Bantu) ซึ่งจัดอยู่ในภาษาลุ่มย่อย "นูนิ" (Nguni)

ราชอาณาจักรซูลูมีบทบาทสำคัญมากในประวัติศาสตร์ของประเทศแอฟริกาใต้ โดยเฉพาะในช่วงระหว่าง พ.ศ. 2344 -พ.ศ. 2444 (คริสต์ศตวรรษที่ 19-20) ในยุคแห่งการถือผิว ชาวซูลูถูกจัดให้เป็นประชาชนชั้น 2 และถูกดูถูกเหยียดหยามอย่างรุนแรง ปัจจุบันชาวซูลูเป็นชนเผ่าที่เป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศแอฟริกาใต้และมีสิทธิเสรีภาพแห่งมนุษยชนเท่าเทียมกับประชาชนทุกเชื้อชาติและชนเผ่าในประเทศ




ประวัติศาสตร์
----------------------------------------------------------

รกรากเดิม

แต่เดิมซูลู เป็นชนเผ่ากลุ่มน้อยที่อยู่ในตอนเหนือของควาซูลู-นาทาลปัจจุบัน ได้สถาปนาตนเองเป็นราชอาณาจักรขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2330 โดยซูลู คานโตมบฮีลี (Zulu kaNtombhele) ในภาษาซูลู คำว่า "ซูลู" แปลว่าสวรรค์ หรือท้องฟ้า ในสมัยนั้น พื้นที่ถูกครอบครองโดยชนเผ่าเล็กที่เรียกว่า "นูนิ" หลายกลุ่ม พวกนูนิได้ย้ายถิ่นฐานลงมาทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปแอฟริกามากกว่าพันปีมาแล้ว อาจเป็นไปได้ที่ได้มาถึงบริเวณที่เป็นประเทศแอฟริกาใต้ในปัจจุบันเมื่อประมาณ 800 ปี ก่อนคริสต์ศักราช หรือประมาณ 2800 ปีก่อน


การขึ้สู่บัลลังก์ของพระเจ้าเคตช์วาโย

สืบเนื่องต่อจากการสู้รบกับดิงกาเน ในปี พ.ศ. 2382 ชาวอาณานิคมวูเทกเกอร์นำโดยเปรโตเรียสได้ก่อตั้ง "สาธารณรัฐบัวร์" แห่งนาตาเลียซึ่งตั้งอยู่ระหว่างทางใต้ของแม่น้ำตูเกลากับด้านตะวันตกของอาณานิคมอังกฤษที่ปอร์ตนาทาล (ปัจจุบันคือดุร์บาน) พระเจ้ามพันเดและเปรโตเรียสยังคงมีสัมพันธภาพที่ดีต่อกันอยู่ อย่างไรก็ดี ในปี พ.ศ. 2385 ได้เกิดสงครามระหว่างพวกบัวร์กับอังกฤษ มีผลให้อังกฤษผนวกนาตาเลียเข้าไว้ในอาณานิคม เป็นเหตุให้พระเจ้ามพันเดหันจำต้องไปเข้ากับฝ่ายอังกฤษและก็ได้มีสัมพันธไมตรีอันดีต่อกัน

ในปี พ.ศ. 2386 พระเจ้ามพันเดได้สั่งกำจัดพวกที่ถูกเข้าใจว่าเป็นอริในราชอาณาจักรของพระองค์ทำให้เกิดการเสียชีวิตมากมาย มีการอพยพลี้ภัยไปสู่ประเทศข้างเคียงรวมทั้งอาณานิคมนาทาลที่อยู่ในบังคับอังกฤษ พวกอพยพเหล่านี้หนีไปพร้อมกับฝูงปสุสัตว์ พระเจ้ามพันเดจึงสั่งกวาดล้างพื้นที่ข้างเคียงจนถึงจุดสูงสุดกลายเป็นการรุกรานสวาซีแลนด์ในปี พ.ศ. 2385แต่ฝ่ายอังกฤษก็ใช้อิทธิพลกดดันให้มพันเดถอยออกไป ซึ่งพระองค์ก็ทำตามโดยดีในเวลาไม่ยาน

ถึงตอนนี้สงครามแย่งชิงบรรลังก์ได้เกิดขึ้นระหว่างพระโอรสสองพระงค์ของพระเจ้ามพันเด คือ เคตช์วาโย กับ มบูยาซี เหตุการณ์ถึงขีดสุดเมือ่ปี พ.ศ. 2395 ด้วยการสู้รบและการตายของมบูยาซ๊ จากนั้นเคตช์วาโย ก็ค่อยๆ ยึดอำนาจการบริหารจากพระราชบิดา เมื่อพระบิดาสิ้นพระชนม์ด้วยโรคชราเมื่อ พ.ศ. 2415 เคตช์วาโย ก็เสด็จขึ้นครองราชย์


Dinizulu.jpg
พระเจ้า เคตช์วาโย



การล่มสลายของราชอาณาจักรซูลู
-----------------------------------------------------------------------------------------------
สงครามอังกฤษ-ซูลู
ในวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2421 ผู้แทนของฝ่ายอังกฤษใด้ยื่นคำขาดให้กับหัวเผ่า 18 เผ่าย่อยที่ขึ้นอยู่กับเซ็ทช์วาโย เนื้อความสำคัญในคำขาดเป็นสิ่งที่พระเจ้าเคตช์วาโย รับไม่ได้ ฝ่ายอังกฤษจึงบุกข้ามแม่น้ำตูเกลาในปลายเดือนธันวาคม สงครามจึงได้เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2422 ในตอนแรกของสงคราม ฝ่ายซูลูรบชนะอังกฤษใน "การสู้รบที่ไอแลนด์ลวานา" (Battle of Islandlwana) ในวันที่ 22 มกราคม แต่กลับมาพ่ายแพ้อย่างยับเยินในวันเดียวกันที่รอร์กดริฟ สงครามจบลงด้วยการพ่ายแพ้ของฝ่ายซูลูในวันที่ 4 กรกฎาคม

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ซูลู


จนกระทั่งในวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2422
สงครามจึงได้เกิด การรบที่ ISANDLWANA เป็นการรบที่มหาอำนาจอังกฤษต้องจดจำ เมื่อรบกับนักรบของเผ่าซูลู ที่มีเพียงโล่และหอก เท่านั้น ทั้งที่อังกฤษมีอาวุธปืนครบมือ มีกระทั้งปืนใหญ่ โดยกองกำลังของ จักรวรรดิอังกฤษ มีจำนวน ราว 1,800 คน รวมถึงชนพื้นเมืองบางส่วนด้วย แต่กองกำลังของซูลูมีมาก ราว 20,000 คน จากการเห็นจำนวนแล้วเป็นคนแอฟริกา คงคิดว่าต้องวิ่งโต้งๆเข้าไปให้อังกฤษยิงเล่น แบบคลื่นมนุษย์ ซึ่งไม่เลย ทางนักรบซูลู ได้ใช้กลยุทธ เหมือนจะเข้าไปในระยะยิงของมหารอังกฤษ พอ ฝ่ายอังกฤษยิงก็พากัน วิ่งถอยหรือหลบลง และอาศัยช่วงที่เปลี่ยนกระสุนนั่นเอง กรูกันเข้าไปรุมทหารอังกฤษ และกองกำลังได้แบ่งออกเป็นหลายด้านเข้าหาพร้อมๆกัน สงครามครั้งนี้ อังกฤษสูญเสียทหารไปทั้งหมดกว่า 1,300 คน ส่วนฝ่ายนักรบซูลู สูญเสียเพียง 1,000 คน หลายคนคงคาดว่าน่าจะมากกว่านี้ เพราะวิ่งเข้าหาลูกปืน



ภาพตำแหน่งเข้าโจมตี


การแบ่งแยกและการสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าเคตช์วาโย
พระเจ้าเคตช์วาโย ถูกจับได้ในเวลา 1 เดือนหลังสงครามและถูกเนรเทศไปอยู่ที่เมืองเคปทาวน์ อังกฤษจัดแบ่งแยกราชอาณาจักรซูลูออกเป็นอาณาจักรเล็กๆ 13 อนุราชอาณาจักรแต่ละอนุราชอาณาจักรมีอำนาจในอาณาจักรของตนเอง ในเวลาไม่นานก็ได้เกิดความขัดแย้งกันขึ้นในระหว่างอนุราชอาณาจักรเหล่านั้น และในปี พ.ศ. 2425 พระเจ้าเคตช์วาโย ก็ได้เสด็จเยือนอังกฤษและได้รับพระราชวโรกาสจากสมเด็จพระนางเจ้าวิกตอเรียให้เข้าเฝ้าและพบปะกับบุคคลสำคัญของอังกฤษก่อนที่จะได้รับการยินยอมให้เสด็จกลับสู่การครองแผ่นดินซูลูแลนด์อีกครั้งหนึ่ง

ในปี พ.ศ. 2456 พระเจ้าเคตช์วาโยกลับได้รับมอบอำนาจให้ครอบครองเฉพาะอาณาเขตรอยต่อที่มีขนาดเล็กกว่าราชอาณาจักรเดิมของพระองค์เป็นอย่างมาก ในปลายปีนั้นพระเจ้าเคตช์วาโย ได้ถูกลอบทำร้ายโดยพวกซิบเฮบฮู หนึ่งใน 13 อนุราชอาณาจักรที่ได้รับการสนับสนุนจากพวกบัวร์ พระองค์ได้รับการบาดเจ็บและสิ้นพระชนม์ในปีต่อมา ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการลอบวางยาพิษ พระโอรส คือ "ไดนูซูลู"พระชนมายุ 15 พรรษาได้ขึ้นครองราชแทน


รับชมคลิปจำลองเหตุการณ์จากภาพยนตร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น